@:around me:@

Monday, December 26, 2005

@-@....พรุ่งนี้อาจสายไป....@-@


ถ้าคุณโกรธใครขึ้นมาแล้วไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเพื่อช่วยแก้สถานการณ์ จงทำด้วยตัวเอง บางทีใครคนนั้นอาจจะยังคงอยากเป็นเพื่อนกับคุณอยู่ และ ถ้าคุณไม่ทำ พรุ่งนี้อาจสายเกินถ้าคุณตกหลุมรักใครสักคนแต่คนๆ นั้นไม่รู้ จงบอกเค้าไป บางทีคนๆ นั้นอาจจะกำลังรักคุณอยู่ด้วยเช่นกัน และถ้าคุณไม่บอกเค้า บางทีพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไปถ้าคุณยังคงรักใครสักคนที่คุณคิดว่าป่านนี้เค้าคงลืมคุณไปแล้ว จงบอกเค้าวันนี้ บางทีเค้าอาจจะยังคงรักคุณอยู่เช่นกัน ถ้าคุณไม่บอกเค้าวันนี้ บางทีพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไปถ้าคุณต้องการการอ้อมกอดจากเพื่อนรัก บอกเค้าสิ บางทีพวกเค้าอาจกำลังอยากให้คุณกอดมากกว่าที่คุณเป็นเสียอีก และถ้าคุณไม่ทำวันนี้ บางทีพรุ่งนี้อาจจะสายเกินถ้าคุณรู้สึกว่าเพื่อนคุณแสนดีเหลือเกิน จงบอกพวกเค้าด้วย เพราะเค้าเองก็อาจจกำลังรู้สึกอย่างเดียวกับคุณเช่นกัน ถ้าคุณไม่ทำแล้วเค้าต้องจากไปเสียแล้ว บางทีพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไปถ้าคุณรักพ่อแม่ของคุณและยังไม่มีโอกาสแสดงออกมา ทำซะเถอะ ท่านยังอยู่ตรงนั้นเพื่อให้คุณได้มีโอกาสแสดงให้ท่านรู้ หากท่านจากไปวันนี้ พรุ่งนี้ก็สายเกินไปเสียแล้ว

w(^0^)w...Tomorrow may be too late...w(^0^)w


If you're mad with someone, and nobody's there to fix the situation... You fix it .Maybe today, that person still wants to be your friend . And if u don't, tomorrow may be too late .If you"re in love with somebody, but that person doesn't know... tell her/him.Maybe today, that person is also in love with you .And if you don't , tomorrow may be too late .If you still love a person that you think has forgetten you... tell her/him.Maybe that person have always loved you. And if you don't tell her/him today, tomorrow may be too late.If you need a hug of a friend ... ask her/him for it.Maybe they need it more than you do. And if you don't ask for it today, tomorrow may be too late.If you really have friends who you appreciate... tell them. Maybe they appreciate you as well. That if you don"t and they leave or go far away today, tomorrow may be too late.If you love your parents, and never had the chance to show them... do it.Maybe you have them there to show them how you feel. if you don"t and they pass away today, then tomorrow may be too late.

Wednesday, December 21, 2005

@:..^-^เรียนรู้จากสิ่งง่ายๆในชีวิต^-^..:@


ยางลบ....กับการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด!!
สมัยเด็กๆ ครูสอนศิลปะท่านหนึ่งสอนฉันเสมอว่าเวลา เราใช้ดินสอวาดภาพ เราห้ามใช้ยางลบ ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจจุดประสงค์ของ ครูสักเท่าไหร่รู้แต่เพียงว่าเวลาฉันวาดภาพแล้วเส้นมันบิด เบี้ยว ฉันก็อยากจะให้มันตรงสวยแต่ทุกครั้งที่ฉันหยิบยางลบ ขึ้นมาเพื่อจะลบภาพนั้น ครูของฉันก็จะเตือนถึงกติกานั้นเสมอ สุดท้ายฉันจึงเลือกใช้วิธีต่อเติมภาพๆนั้นไปตามจินตนาการเช่น ถ้าฉันตั้งใจวาดรูปหน้าคน แต่ฉันอาจเผลอวาดตากลมโตเกินไป ฉันก็จะใช้ วิธีเปลี่ยนตากลมๆ นั้นเป็นแว่นตาแทน แม้ตอนนั้นฉันยังไม่เข้าใจว่า ทำไมฉันจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ยางลบและแม้ฉันจะไม่เคยคิดวาด รูป หน้าคนใส่แว่นมาก่อน แต่ฉันก็ได้รูปหน้าคนตามที่ต้องการ แถมยัง ภูมิใจ ว่าสามารถวาดภาพๆนั้นด้วยความมั่นใจ และไม่ต้องใช้ยางลบ ลบภาพเลยสักครั้งเวลาผ่านไป ฉันโตขึ้น ฉันเรียนรู้ว่า สิ่งที่ ครูสอนวันนั้น แท้จริงแล้วมันปลูกฝังนิสัยหนึ่งให้กับฉัน นั่น คือ การเข้าใจธรรมชาติของความผิดพลาดความผิดพลาดเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของทุกคน และในชีวิตหนึ่งก็มีหลายครั้งที่ฉัน ได้พบมันโดยไม่ตั้งใจ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันยอมรับความผิดพลาดเหล่า นั้น และรวบรวมสติเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ก็คือการ ที่ฉันเข้าใจว่า ธรรมชาติของความผิดพลาด คือ การที่มันเกิดขึ้นแล้ว จะ คงอยู่ถาวร ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ยางลบ ลบความผิดพลาด แต่ฉันจำเป็น ต้องใช้สมองต่อเติมแก้ไขภาพวาดของฉันให้สมบูรณ์ด้วยตัวเองดัง นั้นถ้าความผิดพลาดมันเกิดขึ้นกับเราแล้ว การที่เราจะมานั่งร้องห่ม ร้องไห้ อ้อนวอนขอแหกกฎเพื่อใช้ยางลบกลับไปแก้ไขมันนั้น ย่อมเป็นไปไม่ ได้สิ่งเดียวที่จะทำได้ ก็คือ รู้จักพลิกแพลงแก้ไขสิ่งเหล่า นั้นด้วยสติ และวาดภาพของตัวเองต่อไปด้วยความระแวดระวังมากยิ่ง ขึ้น ทุกคนมีดินสอหนึ่งแท่งเพื่อที่จะวาดภาพชีวิตของเราให้สวย งาม แต่เราไม่มียางลบสักก้อนที่จะเอาไปลบสิ่งที่เราทำผิดพลาดมาแล้ว ได้ดังนั้นเราต้องตั้งใจ และมีสติทุกครั้งที่ลากเส้น ถึงแม้นภาพที่เราวาดออกมาจะไม่เหมือนกับภาพที่เราฝันไว้สักเท่าไหร่ แต่ มันก็ออกมาจากมือของเรา เราควรจะภูมิใจกับมันได้เสมอ ไม่ต้องกลัวหรอก แม้จะรู้ดีว่าสักวันหนึ่งเราอาจลากเส้นบิดเบี้ยวไปบ้างเพราะถึง อย่างไร ฉันยังเชื่อว่าถ้าสมองและหัวใจของเราทำงานอย่างเต็ม ที่ ภาพชีวิตเราก็งดงามได้โดยไม่ต้องใช้ ยางลบ

Tuesday, December 20, 2005

@: MOI:@







(>-<)(_ _)WELCOME TO MY DIARY(>-<)(_ _)



^-^__^0^__^-^


Bonjour, je m'appelle Phanita POOTAENG-ON. Tu m'appelles "POR".J'ai 22 ans. J'habite à Nakhon Pathom, en Thaïlande.

@_@_@_@_@